just say hi and say goodbye


 ชีวิตเราง่ายขึ้นประมาณ 150 เท่าตัว เมื่อเรารู้จักการ say hi and say goodbye

จะบอกว่า “คนสมัยนี้ไม่รู้เป็นอะไร” ก็พูดยาก เพราะเรานี่แหละ คือคนสมัยนี้😅 แล้วเราก็ไม่รู้ด้วยว่าคนสมัยก่อนเป็นยังไง🤣

แต่จากการสังเกตของเรา เราพบว่า คนส่วนใหญ่ชอบหลบตา ทำเป็นมองไม่เห็น และไม่ทักทายเพื่อนของเพื่อนหากว่าไม่รู้จักเพื่อนของเพื่อนคนนั้นมาก่อน ถึงแม้ว่าเพื่อนของเพื่อนคนนั้น จะยื่นหัวโด่อยู่ตรงนั้นตอนที่เราคุยกับเพื่อนของเราก็ตาม

(งงไหม😆)

ครั้งหนึ่งตอนที่ brief งานกลุ่ม

Team member ของเราคนหนึ่งเปิดประตูเข้ามาในห้อง เดินผ่าน อจ แล้วตรงเข้ามาคุยกับเราทันที ทั้งที่ อจ ก็ยืนจังก้าอยู่ตรงนั้น

เราอึ้งเล็กน้อย ก่อนที่จะเหลือบขึ้นไปมองหน้า อจ

ไม่เป็นไร…

ไม่นานเกินรอ เพื่อนในกลุ่มเราอีกคนเปิดประตูเข้ามา ทำแบบเดียวกันเด๊ะ !

คราวนี้เราเร่ิมสงสัย หรือมีแค่เราหว่า… ที่มองเห็น อจ หรือว่า อจ ใช้วิชาล่องหน นี่มัน invisible teacher รึเปล่า😅

แต่เอาตามจริง เราคิดว่า คนเราไม่ได้ตั้งใจที่จะไม่ทักทาย เดินผ่าน หรือไม่สบตา

เราว่า คนส่วนใหญ่ ‘กลัว’ มากกว่า

เพราะบางที เราก็คิดทบไปทบมาวนอยู่ประมาณ 150 รอบว่า เราควรทักทายไหม แล้วก็จะได้คำตอบว่าควรทัก แล้วก็จะมีคำถามต่อมาว่า ทักตอนนี้ทันไหม😆  คำตอบคือ ‘ไม่’ ถ้าจะคิดนานขนาดนั้น ไว้รอบหน้าค่อยทักละกัน😅

เราพบว่า เราใช้พลังงานสมองมากเกินไปกับเรื่องเล็กน้อยแค่นี้ เราเลยแก้ปัญหาโดยการ say hi and say goodbye ทุกครั้งที่เจอคนที่รู้จัก

เราเรียนรู้การใช้วิธีนี้ตอนสมัยทำงาน part-time ที่ไอร์แลนด์

It changed everything!

มันเปลี่ยนทุกอย่างจริงๆ เราไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม

แต่แค่พูด สวัสดีค่ะ ตอนมา กับ สวัสดีค่ะ ก่อนไป มันทำให้ทุกความสัมพันธ์ราบรื่นขึ้นจริงๆ

Comments

Popular Posts