1.น้ำหอม
2. แว่นกันแดด
แว่นกันแดด
ก่อนวันเดินทางหนึ่งวัน พ่อเอาแว่นกันแดดจากในรถมาให้ เราบอกพ่อว่าไม่รู้จะเอาไปดีไหม เพราะน็อตมันไม่ดีแล้ว ใส่แล้วมันหลวมพ่อก็บอกว่า แว่นกันแดดก็สำคัญนะลูก เราก็ลังแล แต่ก็คิดว่าจะเอาไป
พอมาวันเดินทางจริง ทุกอย่างมันวุ่นมาก เราเตรียมตัวไม่พร้อมเอง เลยลืมหยิบมา
ที่เราเสียดายมาก ถึงมากที่สุด เพราะมาเจอสถาพแดดที่ไอร์แลนด์ คือต้องหยีตาตลอดเวลา มันจ้ามาก และแดดก็แรงมาก ถึงแม้อากาศจะหนาวจนมือชา แต่แดดก็เรียกได้ว่า สู้เมืองไทยได้เลยทีเดียว ในหัวเราตอนกำลังหยีตาสู้แดดคือ ทำไมไม่หยิบแว่นกันแดดมา แล้วคำที่พ่อพูดก็เด้งขึ้นมาในหัวว่า “แว่นกันแดดก็สำคัญนะลูก”
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ผู้ใหญ่บอกก็ฟังบ้างก็ได้🤣
น้ำหอม
เราเพิ่งค้นพบไม่นาน ตอนที่เริ่มทำงานโรงแรมว่า เราเป็นคนชอบกลิ่น เพราะพอทำงานโรงแรมเราก็ฉีดน้ำหอม เพื่อให้มันดูดี ดูเข้ากับเดรสสีดำ แหวกข้าง คอวี ของโรงแรมแห่งหนึ่งย่านเพลินจิตที่เราเคยทำ
ตอนจัดกระเป๋า เราก็เอาน้ำหอมขวดเล็กที่เราใช้เหยาะเป็นประจำตอนทำงานไปสองขวด สองกลิ่น แล้วเราก็ชั่งใจว่าจะเอาน้ำหอมขวดใหญ่ของแม่ไปด้วยดีไหม พอดีตอนนั้นกระเป๋ามันแน่นมาก แล้วเรากลัวว่าน้ำหนักจะเกินด้วย เราเลยตัดสินใจแบบลวกๆว่า ไม่เอาไป
พอมาที่นี่ เดินตามถนน หรือ เวลามีคนเดินผ่าน กลิ่นน้ำหอมมันเตะจมูก มันทำให้เราเสียดายดายมากที่ไม่ได้เอาน้ำหอมขวดใหญ่มาด้วย เพราะขวดเล็กที่เอามาปริมาณมันนึดเดียว เราก็ไม่อยากใช้ทุกวัน มันเปลือง น่าจะเอาขวดใหญ่มา จะฉีดให้สะใจเลย!!
เราเป็นคนชอบกลิ่น รู้สึกว่ามันมีเสน่ห์ กำลังตามหากลิ่นที่ชอบ แต่รู้แล้วว่าไม่ชอบกลิ่นหวาน กลิ่นขนม กลิ่นอัลมอนด์หรือกลิ่นที่มันให้ความรู้สึกครีมๆ เราว่ามันรู้สึกเหนียวๆ แล้วก็หนักไป ชอบแบบดอกไม้ mineral ให้ความรู้สึกสบาย ชิลๆ มากกว่า
รอทำงานก่อน จะซื้อมาตุน!
Comments
Post a Comment