จากกรุงเทพไปเซี่ยงไฮ้
28 สิงหาคม เวลาตี 4 ครึ่ง เราเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิมาลงที่ Shanghai Putong Airport
…
ช่วงเวลาปิดเทอมนั้นแสนสั้น บอกตรงๆว่า ไม่อยากกลับมา…
ไม่ใช่เพราะว่าที่จีนไม่ดี แต่เป็นเพราะว่าเราขี้เกียจ😅
—
จริงๆแล้ว เราเปิดเทอมวันที่ 2 กันยายน แต่เพื่อนคนมาเลเซียที่รู้จักกันเมื่อเทอมที่แล้ว ชวนเราเที่ยว Shanghai ด้วยกันก่อนเข้า ม. เราเลยถือโอกาสเที่ยวก่อนเปิดเทอมสักหน่อย
แม้เราจะอยู่ที่จีนมาราวๆ 1 เทอม รวมแล้วเกือบๆ 5 เดือน แต่ก็ยังไม่เคยไปเซี่ยงไฮ้เลย
เราใช้บริการของสายการบิน China Eastern Airline ได้น้ำหนักกระเป๋า 23 kg บวก carry on อีก 7 kg ต้องบอกว่า คนจีนเต็มเครื่องของจริง แต่คนไทยก็มีเห็นบ้างเล็กน้อย
ไปถึง Shanghai Putong รับกระเป๋าเรียบร้อย imigration ผ่านฉลุยเนื่องจากมี Resitdent Permit ของจีน ที่ Jiangsu Uni ทำไว้ให้
สำหรับใครที่มาเรียนที่จีน จะต้องทำ Resident Permit และต้องต่ออายุปีต่อปี ค่าต่ออายุ 400 หยวน ถ้าคุณโดยเก็บมากกว่านั้น แปลว่าโดนเอเจนซี่เก็บเพิ่ม🤣
—
เรารอเพื่อนที่สนามบินอยู่นาน ดื่มกาแฟไปหนึ่งแก้ว พร้อมอ่านหนังสือไป เกือบ 100 หน้า
พอเพื่อนมาถึง (สักที) เราก็พากันนั่ง แท็กซี่ โดยเรียนผ่านแอป DiDi
ไปถึงโรงแรมอย่างปลอดภัยและเหนื่อยเอาการ เนื่องจากกระเป๋าแต่ละคนใบใหญ่มาก แถมเพื่อนเราเอาประเป๋าลากมา 2 ใบ ส่วนเรามีน้อง mac อยู่ในเป้
ที่ตลกคือ ห้องที่เรากับเพื่อนอยู่ ตัวล็อกประตูดันเสีย เพื่อนเราด้วยความรอบคอบ ก็ลองเปิดประตูโดยไม่ใช้ key card สรุปว่า เปิดได้! เรากับเพื่อนมองหน้ากันแบบ 😳😳😳🤯 แล้วพากันไปโวยวาย Reception ข้างหน้า เขาก็ให้คนมาซ้อม
กว่าจะทำเรื่องโน่น นี่ นั่น เสร็จ ก็ดึกแล้ว เราเลยไม่ได้ไปไหนไกล แค่ไปเดินเล่นใกล้ๆโรงแรม
—
เซี่ยงไฮ้… เราว่าสะอาดมากนะ แถมเขียวมาก ต้นไม้เยอะ ถนนหนทางตีเส้นจัดวางเป็นอย่างระเบียบ ตึกรามบ้านช่องก็เป็นตึกสูง เหมือนกรุงเทพฯ แค่ทุกอย่างจะใหญ่กว่าประมาณเท่านึง ถนนก็มีไปเลย 8 เลน เดินข้ามยังไงก็ไม่ถึงสักที พอไปถึงกลางทาง ไฟเขียวคนเดินก็กระพริบแล้ว😅 คราวนี้ก็ต้องวิ่ง เพราะฝั่งรถเข้าใจร้อนกันจริงๆ
แต่เอาตามจริง เราไม่ค่อยตื่นตาตื่นใจเท่าไร รู้สึกเฉยๆ อาจจะเป็นเพราะว่า เมืองใหญ่ก็คือเมืองใหญ่ และกรุงเทพฯก็คือเมืองใหญ่ เราเป็นคนกรุงเทพฯ เราก็ชินแล้ว









Comments
Post a Comment