ชีวิตเด็กหอ

 #jsu #china #blog 

หอในที่ Jiangsu University ค่อนข้างดีมาก ถึงมากที่สุด

หรือเป็นเพราะเราเคยเจอที่ที่แย่กว่านี้มา🤣

หอที่เราอยู่เป็นหอนักเรียนต่างชาติ หมายความว่ามีแต่นักเรียนต่างชาติที่พักในหอนี้ ส่วนนักศึกษาจีน จะมีหอของเขา ซึ่งมีอยู่เยอะมาก เรียกได้ว่า มหาลัยมีหอพักมากกว่าตึกเรียน!

หอต่างชาติ เขาว่ากันว่าดีสุด เพราะห้องหนึ่งห้องอยู่กันแค่สองคน แถมมีห้องน้ำในตัว มีเครืองซักผ้าอบผ้าส่วนกลางหลายเครื่อง และมีห้องครัวส่วนกลาง ที่เรายังไม่เคยไปใช้บริการ😂

เหตุมีอยู่ว่าห้องครัวที่ว่านั้นประกอบด้วยเตาประมาณ 10 หัว และไมโครเวฟหนึ่งเครื่อง ส่วนหม้อ กระทะ ตะหลิว จานชาม เครื่องปรุงทุกอย่าง ต้องซื้อมาเอง

จากการคำนวณดูแล้ว ราคาอาหารต่อจานที่นึ่ประมาณ 50-80 บาท และให้เยอะมากกก

ซื้อกินดีว่า😂

หอคนจีนนั้นลำบากกว่าเราเยอะ😅 ที่หออไม่มีห้องอาบน้ำ คือทั้งตึกนั้นไม่มีห้องอาบ! ตอนดึกๆจะเห็นเด็กจีนเดินถือกะลามังใบเล็กๆ ใส่สบู่ ใส่ผ้าเช็ดตัว เดินกันเป็นแถวระหว่างหอพักกับสถานที่อาบน้ำรวม

ไม่รู้เหมือนกันว่าสภาพข้างในที่อาบน้ำเป็นอย่างไร เพราะไม่เคยเข้าไป

แต่แค่นึกสภาพว่าที่หอพักไม่มีห้องอายน้ำ แค่นี้ก็ บัยบายล่ะ🤣

หอพักเด็กจีนยังแออัดกว่า ได้ยินว่าห้องนึงอยู่กัน 4-6 คน 

เด็กจีนส่วนใหญ่เลยไปอ่านหนังสือกันที่ห้องสมุด ซึ่งเขาไปต่อแถวกัน เพื่อจับจองที่นั่งในห้องสมุดกันตั้งแต่ 7 โมงเช้า ก่อนห้องสมุดเปิด

เราจะเห็น pattarn ตามช่วงเวลา 

15 นาทีก่อนคลาสเริ่ม จะเห็นคนเดินเป็นขบวน มุ่งหน้าไปในทิศทางเดียวกัน

หลังกระดิ่งเข้าเรียนดังปุ๊ป บนถนนแถบจะไม่มีคนให้เห็นเลย (มีเราหนึ่งคนที่ยังไปไม่ถึงห้องเรียน🤣)

เช่นเดียวกัน หลังกระดิ่งจบคาบเรียนปุ๊ป ก็จะเห็นคนเป็นสายเดินเต็มถนน

ประมาณ 5 โมงถึงสองทุ่ม ลานสนามบาสที่มีแป้นบาสอยู่ราวๆ 60 แป้น พร้อมกับสนามวอลเลย์บอลอีก 8 สนาม ก็เรียกได้ว่า เกือบเต็มในวันที่อากาศไม่เป็นใจ และเต้มจนล้นในวันที่อากาศดี

หอในที่มหาลัยนี้ปิด 5 ทุ่ม เขาจะใส่กุญแจล็อกประตูเลย เห็นว่าถ้ากลับสายก็ไปเคาะๆจนกว่าคนดูแลหอจะเปิดให้ก็ได้😂

เราเคยกลับประมาณ 5 ทุ่มครึ่ง เขายังไม่ล็อกประตู แต่ก็จะโดนจ้องเล็กน้อย

เพื่อนบอกว่า หอเด็กจีน นอกจากเขาจะล็อกประตูแล้ว เขายังตัดไฟด้วย😆 ประมาณว่า เวลานอนก็ต้องนอน

สรุป ถ้าคิดว่าเราลำบากแล้ว เด็กจีนลำบากกว่า😅