รูมเมทเกาหลีคนที่สองไปแล้ว

 August 04, 2023


วันนี้ตื่นเช้ามา รูมเมทเกาหลีคนที่สองของเราได้หายไปแล้ว เรามองไปยังเตียงที่ว่างเปล่า แอบรู้สึกจุกเล็กน้อย 


ไม่มีโอกาสได้กล่าวคำล่ำลาอย่างจริงจัง


ถึงแม้เราจะไม่ค่อยชอบรูมเมทเกาหลีคนที่หนึ่ง ซึ่งเป็นเพื่อนของรูมเมทเกาหลีคนที่สอง แต่สำหรับคุณ s (นามแฝงของรูมเมทเกาหลีคนที่สองเราค่อนข้างจะมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมากๆ ไม่ได้สนิท แต่รู้สึกว่าเข้าใจ


เรื่องราวของคุณ s ตั้งแต่เข้ามาวันแรกก็มีความน่าประหลาดและไม่ได้เข้ามาแบบปกติเหมือนคนอื่นๆ คุณ s เข้ามาอยู่แบบงงๆ มาแทนที่รูมเมทคนเดิมเรา โดยที่ทั้งสองคนตกลงกันเอง ไม่มีใครรู้เรื่องเลยนอกจากเรา🤣 (ซึ่งรู้เพราะอยู่ห้องเดียวกัน)


พอคนดูแลหอรู้เรื่อง ก็เกิดการทะเลาะกันใหญ่โตที่ห้องครัว เราไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ แต่เพื่อนที่อยู่หอเดียวกันแชทมาหาพร้อมเครื่องหมายตกใจสามตัวรัวๆ ว่า “Maisy! Do you know there is a strange girl in your room!!!”


เรื่องราวที่ห้องครัววันนั้นน่าจะมีปากเสียงกันหนักจริงๆ เนื่องจากผู้ดูแลหอพัก whatsapp มาหาเรา และบอกเราว่า มีคนมาอยู่ใหม่นะ ยูโอเคหรือเปล่า “But don’t worry she only stay for one night, she has to move out tomorrow” !!!


เรากลับไปที่ห้องวันนั้นเจอคุณ s นั่งอยู่บนเตียง สีหน้าไม่ค่อยดีเท่าไรนัก เราเลยแกล้งๆถามว่า “you good? Are you ok?” คุณ s เลยเล่าให้เราฟังว่าทะเลาะกับผู้ดูแลหอและเขาจะต้องย้ายออกพรุ่งนี้ 


“But I don’t have any place to go, and don’t have any money as well haha…” คุณ s ขำแห้งๆ


ใจหนึ่งเราก็สงสาร อีกใจหนึ่งเราก็แอบดีใจ… 💭จะได้อยู่ห้องคนเดียวสักที💭


สรุป เขาไปตกลงกันอย่างไรไม่รู้ ปรากฎว่าคุณ s ได้อยู่ต่อ เนื่องจากเพื่อนเขา(รูมเมทเกาหลีคนที่หนึ่งจ่ายค่าห้องไปแล้ว คุณ s จึงได้อยู่เป็นรูมเมทเราต่ออีก 2 สัปดาห์😂


เราไม่รู้ว่าคุณ s เพิ่งผ่านอะไรมา แต่ดูจากหน้าตา พลังงาน และลักษณะการพูดและการเล่าเรื่อง เราพอจะเดาได้ว่า เขายังอยู่ใน stage ของการ healing และยังบอบบางมาก





คุณ s เล่าว่าเขาไม่มีเงินเลย และไม่รู้จะไปต่ออย่างไรหลังจากต้องย้ายออกจากที่นี่ เขาไม่มีเงินพอจะจ่ายค่าที่พัก และที่เขาอยู่ที่นี้ได้ตอนนี้ก็เพราะเงินของเพื่อนเขาที่จ่ายค่าห้องเอาไว้ 


เรารู้สึกงุนงง คิดว่าตัวเองที่เหมือนจะเอาตัวไม่รอดในแต่ละวันอยู่แล้ว อยู่ดีๆก็เจอคนที่น่าจะเอาตัวไม่รอดมากกว่า🤣


คุณ s เล่าว่าเขาบินมาจาก London “I had been living in London for a while” เราไม่ได้ถามคำถามอะไรมากมาย เราไม่ได้ขอให้เขาเล่าประวัติชีวิตแบบเรียบเรื่องเป็นเหตุการณ์ต่อเหตุการณ์ เพราะว่า 1) เราไม่ได้สนใจมากขนาดนั้น และ 2) มันเป็นเรื่องส่วนตัว 


จากที่เราฟังคุณ s เล่า เขาอยู่มาหลายประเทศมาก คุณ s บอกว่าเขาเคยอยู่ที่ ฝรั่งเศส อิตาลี ลอนดอน สเปน และฟิลิปปินส์เขาชอบอิตาลีมากที่สุดและไอร์แลนด์คือที่ที่แย่ที่สุด🤣 


สิ่งที่น่าสนในมากๆในการคุยกับคุณ s คือมุมมองเรื่องความสัมพันธ์ ความสัมพันธ์ในที่นี้หมายถึง couple จะชายชาย หญิงหญิง ชายหญิง หรือมากกว่านั้น แต่คุณ s ให้ความสำคัญกับคู่ครองมากๆ


คุณ s เล่าว่า ทุกที่ที่เขาไปอยู่ เขาจะหาแฟน แล้วเวลาที่เขาเลิกกับใคร เขาก็จะเริ่ม dating a new guy เขาบอกว่า “guy is my first priority” เราถามว่าทำไม คุณ s ตอบว่า “I want to be loved”


การมีลูกคือความฝันของคุณ s ซึ่งเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถเข้าใจได้ แต่เราเจอเพื่อนหลายคนที่ไอร์แลนด์ ที่ความฝันสูงสุดของพวกเขาคือการมีลูกและสร้างครอบครัว เราถามทุกครั้งว่าทำไม เนื่องจากเราไม่เคยมีความคิดแบบนั้น แต่เราพบว่า ไม่มีใครให้คำตอบที่ชัดเจนได้ว่าเพราะอะไร แต่พวกเขายังคงอยากที่จะมี 


กลับมาที่คุณ s 


เราถามเขาว่าทำไมแฟนถึงต้องจำเป็นขนาดนั้น 


“I don”t know, maybe I’m not confident enough to do everything by myself. I am always rely on him, you know?”


เมื่อคืนเราคุยกับคุณ s จนเผลอหลับไป ตื่นเช้ามา คุณ s ก็ไปแล้ว


ตลอดเวลาสองสัปดาห์ที่อยู่ที่หอพัก คุณ s ไม่คุยกับใครเลย คนอื่นในหอแทบไม่มีใครเคยเห็นคุณ s เขาไม่ลงไปห้องครัวตอนที่มีคนอยู่ จะถามเราว่ามีใครอยู่ห้องครัวไหม ถ้าไม่มีเขาถึงจะลงไป 


อย่างไรก็ดี คุณ s ก็เป็นคนที่น่ารักมากสำหรับเรา


bye!







Comments

Popular Posts