Active mindset

 เพื่อนร่วมคลาสของเราส่วนใหญ่มาจาก south america มีคนเอเชียแค่ 1 คน เป็นคนเกาหลี ซึ่งไม่ค่อยมาเรียนเท่าไร


เราพบว่า ทุกคนมีความมั่นใจ กล้าถาม กล้าตอบและแสดงความคิดเห็นกันอย่างเปิดเผยโดยไม่ต้องพะวงว่าจะมีปัญหากับคนอื่นเพราะมีปัญหากันตลอดเวลาอยู่แล้ว🤣


เวลามี topic อะไรที่ก็ตาม ทั้งที่มาจากหนังสือเรียนหรือแค่เป็นคำถาม ramdom จากคนในคลาส มักมีการแสดงความคิดเห็นที่ต่างและเริ่ม support ควาวคิดเห็นของตัวเอง โต้กันไปโต้กันมาจนอารมย์ขึ้น เสียงดังอยู่พักหนึ่ง แล้วก็หยุด เลิกลา เรียนต่อ


เราเจอแบบนี้เกือบทุกวันจนชิน มองย้อนกลับไปตอนเรียนที่ไทย ถ้าเถียงกันขนาดนี้น่าจะไม่คุยกันไปอีกสัก 2-3 วัน ที่น่าสนใจอีกอย่างคือเรื่องการถามคำถาม เขาถามกันแบบสงสัยอะไรก็ถาม ไม่กลัวว่าจะผิดหรือถูก judge ว่าไม่เก่ง เรารู้สึกว่า บรรยากาศค่อยข้างจะเกื้อหนุนให้คนรู้สึกปลอดภัยในการถามและแสดงความคิดเห็น ซึ่งเรามองว่า นั้นคือกุญแจสำคัญของการเรียนรู้


อีกสิ่งหนึ่งที่เราคิดว่าสนับสนุนการเรียนรู้มากๆ คือเนื้อหาของหนังสือเรียนที่มี topic ให้ต้อง discuss ปัญหาต่างๆ เช่น สิ่งแวดล้อมข่าว นวัตกรรม และแสดงความคิดเห็นอยู่ด้วยตลอด ซึ่งช่วยเปิดมุมมองให้กว้างขึ้น และทำให้เกิดการถกเถียงเพื่อพัฒนา idea


มีอยู่ช่วงหนึ่ง คุณครูที่สอนประจำป่วย  และมีครูคนอื่นมาสอนแทน ซึ่งสอนไม่ดีเท่าไร เราเองรู้สึกว่าน่าเบื่อ แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรเพราะสำหรับเราถ้าสอนน่าเบื่อ เราก็แค่ไม่ตั้งใจเรียน 


ปรากฎว่าเพื่อนร่วมชั้นเรียนเรา complain อย่างหนัก เราจำได้ประโยคหนึ่งที่เขาพูดคือ “I don’t want to wake up early in the morning to just sit and do nothing, I didn’t pay for that. I want to do something active.”


เรารู้สึกว่า ในหัวเราค่อนข้างจะมีความคิดแบบ ยอมรับในสิ่งที่เป็น หรือ ความคิดแบบ ทำๆไปเถอะ


แต่ที่เราเจอคนส่วนใหญ่ที่นี้ น่าจะมีความคิดแบบ this is sh!t, I won’t stand for it!


ในห้องเรามักได้ยินคำถาม “ am I right?, how to say this?, what does it mean?, I don’t know the word, sorry I have a question” 


เรารู้สึกว่า เขาค่อยข้างจะมี mindset ของการแก้ไขข้อผิดพลาดและไม่ละเลยปัญหา ต่างจากเราที่คิดว่า ก็ปล่อยไว้งั้นล่ะ😂






Comments

Popular Posts